ยิงเข้ากรอบครั้งแรกเป็นสกอร์ และประตูชัย "ฝอยทอง" โปรตุเกส เฮเข้ารอบ หลัง ริคาร์โด้ กวาเรสม่า โขกซ้ำลูกยิงของ โรนัลโด้ นาทีที่117 พาทีมเฉือนชนะ โครเอเชีย 1-0 ผ่านเข้ารอบไปเจอ โปแลนด์ ต่อไป ในศึกยูโร2016 รอบ16ทีมสุดท้าย เมื่อวันเสาร์ที่ 25 มิถุนายน ที่ผ่านมา

ฟุตบอลยูโร 2016 รอบ 16 ทีมสุดท้าย
    วันเสาร์ที่ 25 มิถุนายน 2559 
    โครเอเชีย 0-0 โปรตุเกส 

(ต่อเวลาพิเศษโปรตุเกสชนะ1-0)

สนาม: สต๊าด โบลลาร์-เดลเลอลีส, (ล็องส์, ฝรั่งเศส), (สนามกลาง) 

         สถิติที่พบกันมา โปรตุเกส ชนะทั้ง 3 เกมที่พบกับ โครเอเชีย โดยยิงได้ 6 ลูก และไม่เสียประตูเลยด้วย โดยทั้งสองทีมเจอกันในรายการเมเจอร์หนเดียวก่อนหน้านี้ โปรตุเกส ชนะ 3-0 รอบแบ่งกลุ่มยูโร 1996 

        "ทีมตาหมากรุก" โครเอเชีย ลงเล่นศึกยูโร 2016 โชว์ฟอร์มยอดเยี่ยมมากในรอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม ดี เริ่มจากชนะ ตุรกี 1-0 เกมแรก ก่อนเสมอกับ สาธารณรัฐเช็ก 2-2 ในนัดสอง แล้วมาพลิกเชือด สเปน แชมป์เก่าสุดมัน 2-1 มีทั้งหมด 7 คะแนนจากการลงสนาม 3 นัด เข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายด้วยการเป็นอันดับหนึ่งของกลุ่ม ดี. 

        เกมนี้ โครเอเชีย ที่ไม่แพ้ใครมาแล้ว 10 เกมติดต่อกัน (ชนะ 8 เสมอ 2 นัด) ยาวนานที่สุดในบรรดาทีมที่เล่นในยูโร 2016 ได้ตัว ลูก้า โมดริช มิดฟิลด์ตัวกลั่นวัย 30 ปี หายเจ็บกล้ามเนื้อต้นขา กลับมาลงสนามได้แล้ว เช่นเดียวกับ มาริโอ มานด์ซูคิช กองหน้าตัวเก่งที่หายเจ็บกล้ามเนื้อ ลงมายืนเป็นหอกเป้า 

ทางด้าน "ขุนพลจากแดนฝอยทอง" ทีมชาติโปรตุเกส เสมอมาสามนัดรวดในรอบแบ่งกลุ่ม รั้งอันดับ 3 ของกลุ่ม เอฟ ผ่านเข้ามาเล่นรอบ 16 ทีมสุดท้าย ด้วยการเป็นหนึ่งในทีมอันดับสามที่ดีที่สุด 4 ทีม 

       นัดนี้ โปรตุเกส ได้ ราฟาเอล เกอร์เรยโร่ แบ็คซ้ายดาวรุ่งวัย 22 ปี หายเจ็บกล้ามเนื้อต้นขา กลับมาลงสนามทันเวลา 

      แดนกลางวาง ชูเอา มาริโอ กับ อันเดร โกเมส สร้างเกมรุกช่วยคู่หน้าทั้ง นานี่ กับ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ กัปตันทีม เข้าถล่มประตู 

      ออกสตาร์ทครึ่งแรกมาท่ามกลางอุณหภูมิเย็นสบาย 16 องศาเซลเซียส เกมดำเนินมาถึงนาทีที่ 25 โปรตุเกส ได้โอกาสจากจังหวะที่ ราฟาเอล เกอร์เรยโร่ แบ็คซ้ายโยนฟรีคิกให้กับ เปเป้ โหม่งบอลเหินข้ามคานไป 

ครึ่งชั่วโมงของเกม โครเอเชีย มีโอกาสยิงบ้าง มิลาน บาเดลจ์ ตัดบอลจากกลางสนามก่อนวางออกไปทางขวา อีวาน เปริซิช ที่วันนี้ทำผมทรงใหม่เป็นลายตาหมากรุกพร้อมย้อมสีแดง-ขาวด้วยนั้น ล็อกตัดเข้าในแล้วกดด้วยซ้ายบอลพุ่งหลุดเสาแรกไป

     ผ่านมา 37 นาที ทีมตาหมากรุกมีโอกาสอีก อีวาน ราคิติช เปิดฟรีคิกจากทางกราบขวา ให้กับ โดมากอย วีด้า เทคตัวโขกแต่โดนไม่ดีบอลหลุดเสาไกลไป หมดครึ่งแรกเสมอกันอยู่ 0-0

กลับมาสู้กันต่อในครึ่งเวลาหลังได้แค่ 5 นาที โปรตุเกส เปลี่ยนเอา อันเดร โกเมส ออกแล้วให้ เรนาโต้ ซานเชส กองกลางดาวรุ่งวัย 18 ปี ลงมาเล่นแทน 

     โปรตุเกส ได้โอกาสในนาทีที่ 57 เมื่อ เรนาโต้ ซานเชส ทำชิ่งออกซ้ายกับ ชูเอา มาริโอ ที่คืนกลับให้ เรนาโต้ ซานเชส ยิงอัดด้วยขวาจากหน้าเขตโทษบอลหลุดเสาซ้ายไป 

กระเถิบมานาทีที่ 63 โปรตุเกส มาอีกครั้ง อาเดรียน ซิลวา เปิดให้กับ นานี่ ยิงในกรอบเขตโทษบอลหลุดเสาขวาไป 

      แปดนาทีต่อมา โครเอเชีย ได้ลุ้นบ้าง มาร์เซโล่ โบรโซวิช โยนให้กับ อีวาน เปริซิซ ยิงด้วยซ้ายในกรอบเขตโทษด้านซ้ายบอลหลุดเสาแรกไป 

     เวลาที่เหลือทั้งสองทีมทำอะไรกันไม่ได้อีก ครบ 90 นาที เสมอ 0-0 ต้องต่อเวลาพิเศษอีก 30 นาที 

     ช่วงต่อเวลาพิเศษ นาทีที่ 96 อิวาน ราคิติช จ่ายตัดแนวรับ โชเซ่ ฟอนเต้ สกัดไปติด นิโคล่า คาลินิช กระชากไปยิงแต่ดันหวดหลุดกรอบแบบไม่ได้ลุ้นอะไรเลย

     เกมดำเนินมาถึงนาทีที่ 113 โครแอต มาได้เตะมุมทางซ้าย มาร์เซโล่ โบรโซวิช เปิดเข้ากลาง รุย ปาตราซิโอ ออกมาพลาดแล้วแต่ โดมากอย วีด้า โขกข้ามคานออกไป

ถัดมานาทีที่ 116 โครเอเชีย พลาดโอกาสทองในจังหวะที่ ดาริโย เซอร์น่า ครอสให้ อิวาน เปริซิช โขกชนเสาอย่างจัง

     แต่นาทีที่ 117 โปรตุเกม ออกนำ 1-0 เรนาโต้ ซานเชส สวนกลับขึ้นมาไหลให้ นานี่ ยิงไม่ดีแต่บอลหลุดไปเสาไกล คริสเตียโน่ โรนัลโด้ หวดติดเซฟ ดานิเยล ซูบาซิช ปัดเข้าทาง ริคาร์โด้ กวาเรสม่า โขกซ้ำเข้าไป

     จบเกม โปรตุเกม เอาชนะ โครเอเชีย ในช่วงต่อเวลาพิเศษ 1-0 ผ่านเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายไปดวลกับ โปแลนด์ 

    รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม 

    โครเอเชีย : ดานิเยล ซูบาซิช - ดาริโย เซอร์น่า (กัปตันทีม), เวดราน ชอร์ลูก้า, โดมากอย วีด้า, อีวาน สตรินิช - ลูก้า โมดริช, มิลาน บาเดลจ์ - มาร์เซโล่ โบรโซวิช, อีวาน ราคิติช, อีวาน เปริซิช - มาริโอ มานด์ซูคิช

    โปรตุเกส: รุย ปาตริซิโอ - เซดริค โซอาเรส, เปเป้, โชเซ่ ฟอนเต้, ราฟาเอล เกอร์เรยโร่ - ชูเอา มาริโอ, อาเดรียน ซิลวา, วิลเลี่ยม คาร์วัลโญ่, อันเดร โกเมส - นานี่, คริสเตียโน่ โรนัลโด้ (กัปตันทีม)
  

 ผู้ตัดสิน: การ์ลอส เบลาสโก้ การ์บาโญ่ (สเปน)