ทีมชาติยักษ์ใหญ่:
ฝรั่งเศส อังกฤษ เยอรมนี สเปน อิตาลี เบลเยียม สวีเดน โปรตุเกส
news
อยู่ที่: หน้าแรก >
  • หน้าแรก
  • นักเตะ
  • ข่าว
  • รูปภาพ
  • สถิติข้อมูล
  • วิเคราะห์
  • การแข่งขันถัดไป

บทเรียนจากรอบคัดเลือก
ทางเลือกที่หลากหลาย สวิสอาจจะขาดแคลนกองหน้าระดับท็อป แต่พวกเขาก็ช่วยกันแบ่งเบาหน้าที่การทำประตูในรอบคัดเลือก - จากผู้เล่น 14 ราย ที่ช่วยกันสอยตาข่าย

 

จุดแข็ง
ประสบการณ์: ผู้เล่นส่วนใหญ่ของพวกเขาล้วนเล่นให้ลีกสูงสุดในอังกฤษ, เยอรมัน หรืออิตาลี แถมยังมีฟูลแบ็กที่ยอดเยี่ยม - สเตฟาน ลิชต์สไตเนอร์ ของ ยูเวนตุส และ ริคาร์โด้ โรดริเกวซ  แบ็กซ้ายผู้เต็มไปด้วยแพสชั่น - ช่วยให้แผงหลังแข็งแกร่ง ในขณะที่กองกลางนั้นนำโดย เซอร์ดาน ชากิรี่ คอยสนับสนุนกองหน้าพรสวรรค์สูงอย่าง บรีล เอ็มโลโล่
 
จุดอ่อน
มีเพียงสองทีมเท่านั้น ที่ยิงประตูได้มากกว่าสวิตเซอร์แลนด์ ที่ทำไว้ 24 ประตูในรอบคัดเลือก แต่เกือบครึ่งหนึ่งของประตูมากมายนั้น มาจากเกมกับซานมาริโน และสวิสก็ยังล้มเหลวในการเจาะตาข่ายคู่ต่อสู้ถึง 3 นัด ดังนั้นการทำประตูอาจกลายเป็นเรื่องยากได้ที่ฝรั่งเศส
 
สิ่งที่มีแนวโน้มว่าจะเกิดขึ้นมากที่สุด
ความไม่เหมาะสมสำหรับทีมชาติจากประเทศในคาบสมุทรบอลข่าน ก็คือการครอบงำของผู้เล่นในรายชื่อทีมสวิส พร้อมความสัมพันธ์ของคนในตระกูลไปสู่ระดับภูมิภาค
 
สิ่งที่มีแนวโน้มว่าจะเกิดขึ้นน้อยที่สุด
การมีหนึ่งในผู้เล่นของพวกเขาที่จะกลับสู่ประเทศพร้อมรางวัลรองเท้าทองคำ เพราะนักเตะสวิสทำได้แค่ 5 ประตูในเกมยูโร 9 นัดหน้านี้
 
สิ่งที่พวกเขาหวังว่าจะเกิดขึ้น
การที่พวกเขาสามารถจะจบอันดับได้ดีกว่าการเป็นบ๊วยของกลุ่ม A หลังล้มเหลวหยุดไว้เพียงแค่รอบแรกตลอด 3 ครั้งที่ผ่านมา
 
อะไรจะเกิดขึ้น
การเข้าไปถึงรอบ 8 ทีมสุดท้าย ซึ่งสเปนจะได้ถึงเวลาแก้แค้น สำหรับความพ่ายแพ้ในการแข่งขันฟุตบอลโลก 2010

 

ผู้เล่นหลัก - เซอร์ดาน ชากิรี่
ทักษะการเลี้ยงบอลลูกที่เปี่ยมด้วยเวทย์มนตร์ และพลังเครื่องจักรที่หยุดไม่ได้ทำให้ ชากิรี่ คือความหวังของสวิส 'เมสซี่แห่งเทือกเขาแอลป์' ต้องดิ้นรนมาหลายต่อหลายครั้ง นับตั้งแต่ย้ายมายัง สโต๊ค ในปี 2015 แต่เขาก็ยังช่วย สวิตเซอร์แลนด์ผ่านเข้ารอบพร้อมผลงาน 4 ประตูในรอบคัดเลือก และนอกจากนั้นยังเป็นคนสร้างโอกาสให้ทีม ด้วยการแอสซิสต์ให้เพื่อนๆ ซัดประตูถึง 5 ครั้ง ส่งให้ทีมเดินทางมาถึงฝรั่งเศส
 
ผู้จัดการทีม - วลาดิเมียร์ เพ็ทโควิช
กุนซือผู้เกิดในบอสเนียวัย 52 ปี คุมทีมประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี ต่อจาก อ็อตมาร์ ฮิตซ์เฟลด์ หลังจบฟุตบอลโลก 2014 ด้วยประสบการณ์การคุมทีม 15 ปี ในสวิสเซอร์แลนด์ และผลงานการคว้าแชมป์ โคปปา อิตาเลีย กับ ลาซิโอเมื่อปี 2013

นักเตะ