ฟุตบอลยูโร 2016 รอบคัดเลือก กลุ่ม เอ นัดสุดท้าย

 วันอังคารที่ 13 ตุลาคม 2558

 ฮอลแลนด์ 2-3 สาธารณรัฐเช็ก

สนาม: อัมสเตอร์ดัม อารีน่า, (อัมสเตอร์ดัม, ฮอลแลนด์)

          "กังหันลม" ทีมชาติฮอลแลนด์ รั้งอันดับ 4 ของกลุ่ม โดยเกมนัดนี้พวกเขาต้องเอาชนะให้ได้สถานเดียว พร้อมกับไปลุ้นผลของคู่ตุรกีให้เป็นใจด้วย หากหวังลุ้นเล่นรอบเพลย์ออฟ

          เจ้าถิ่นส่ง จอร์จินโย่ ไวนัลดุม, ดาเล่ย์ บลินด์ และ เวสลี่ย์ สไนเดอร์ (กัปตันทีม) ลงคุมเกมแดนกลาง ส่วนสามประสานแดนหน้าใช้ อันวาร์เอล กาห์ซี่, คลาส แยน ฮุนเตลาร์ และ เมมฟิส เดอปาย ลงล่าตาข่าย

          ทางด้าน สาธารณรัฐเช็ก ผ่านเข้าไปเล่นในรอบสุดท้ายได้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เกมนี้ให้ ปีเตอร์ เช็ก นายทวารจอมเก๋าลงเฝ้าเสาเป็นนัดที่ 117

          ในแดนกลางให้ ยีริ สคาลัค, วลาดิเมียร์ ดาริด้า, ยาโรสลาฟ พลาซิล และ โยเซฟ ซูราล ร่ายเกมรุกสนับสนุน โทมัส เนซิด เข้าปิดสกอร์

          ออกสตาร์ตครึ่งแรกแค่นาทีเดียว อันวาร์ เอล กาห์ซี่ ปีกดาวรุ่งของเจ้าถิ่นได้ส่องด้วยขวา ทว่า ปีเตอร์ เช็ก นายทวารของสาธารณรัฐเช็ก ปัดไว้ได้ทัน

          เกมดำเนินมาถึงนาทีที่ 10 ฮอลแลนด์ มีโอกาสอีก เมื่อ เวสลี่ย์ สไนเดอร์ กัปตันทีมซัดด้วยขวาบอลเหินข้ามคานไป

          อย่างไรก็ตามนาทีที่ 25 กลายเป็นทีมเยือนที่ชิงขึ้นนำได้ก่อน จากจังหวะที่ต่อบอลกันมาสวยแล้วจังหวะสุดท้าย ยีริ สคาลัค จ่ายออกมาทางกรอบเขตโทษด้านขวาให้กับ พาเวล คาเดราเบ็ค แบ็กขวาสอดขึ้นมาพาบอลไปกดด้วยขวาจากระยะแค่ 12 หลา เสียบเสาแรกเข้าไปให้ สาธารณรัฐเช็กนำก่อน 1-0

          ผ่านมา 35 นาที สาธารณรัฐเช็ก มาได้ประตูนำห่าง 2-0 จากจังหวะที่ โทมัส เนซิด กระดกบอลจากทางกราบซ้ายเข้าในให้กับ โยเซฟ ซูราลสอดมาเกี่ยวบอลหนีกองหลังเข้าไปล้มตัวจิ้มด้วยขวาจากระยะแค่ 6 หลา เสียบเสาแรกเข้าไป

          ถัดมา 4 นาที ฮอลแลนด์ ไม่รอช้าเปลี่ยนเอา โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ กองหน้าตัวดังลงมาเสริมแนวรุกแล้วถอด ไฮโร่ ไรเดวัลด์ แบ็กซ้ายออกพร้อมปรับมายืนหลังสามคน

          ก่อนหมดครึ่งแรกแค่สองนาที สาธารณรัฐเช็ก ต้องเหลือผู้เล่นแค่ 10 คน เท่านั้น เมื่อ มาเร็ค ซูชี่ ปราการหลังไปเสียบ เมมฟิส เดอปายในจังหวะจะหลุดเดี่ยว เลยโดนผู้ตัดสินแจกใบแดงอัปเปหิจากสนามไปในทันที จากลูกฟรีคิก ฟาน เพอร์ซี่ ยิงไปติดกำแพง มาเข้าทางเจ้าตัวซ้ำอีกครั้งก็หลุดกรอบไปอีก หมดครึ่งแรก สาธารณรัฐเช็ก ที่เหลือแค่ 10 คน บุกมานำก่อน 2-0

          เข้าสู่ครึ่งหลังได้แค่ 5 นาที ฮอลแลนด์ บุกเข้าใส่มีโอกาสจากการยิงด้วยซ้ายของ เวสลี่ย์ สไนเดอร์ กัปตันทีมบอลหลุดเสาไปอีก

          กระเถิบมานาทีที่ 59 ยาโรสลาฟ พลาซิล กองกลางวัย 33 ปีของสาธารณรัฐเช็ก ได้โหม่งบอลหลุดเสาไป

          สี่นาทีต่อมา ดัตช์ ได้ลุ้นบ้าง คลาส แยน ฮุนเตลาร์ ทะยานขึ้นโหม่งบอลเฉี่ยวเสาซ้ายออกไป

          อย่างไรก็ตามนาทีที่ 66 ทีมเยือนที่ผู้เล่นน้อยกว่ามาได้ประตูที่สามจากจังหวะที่ ยีริ สคาลัค เปิดฟรีคิกจากกราบขวาเข้ามากลางกรอบเขตโทษ ผู้เล่นสาธารณรัฐเช็กขึ้นโหม่งไม่ถึง บอลเลยมาถึง โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ ที่ลงไปช่วยเกมรับ เจ้าตัวกะโหม่งให้ผู้รักษาประตู แต่บอลพุ่งแรงย้อนเสียบเสาแรกเข้าประตูตัวเองไปอย่างโชคร้าย สงเคราะห์ให้ สาธารณรัฐเช็ก นำขาด 3-0 และเป็นการทำเข้าประตูตัวเองครั้งแรกของผู้เล่นฮอลแลนด์ นับตั้งแต่ปี 2005 ด้วย

          สี่นาทีถัดมา เจ้าถิ่นได้ประตูตีไข่แตก เวสลี่ย์ สไนเดอร์ เปิดมุมจากทางด้านขวาเข้ามาให้ คลาส แยน ฮุนเตลาร์ โหม่งจ่อๆ แค่ 6 หลา ตุงตาข่าย ช่วยให้ "กังหันลม" ไล่มา 1-3

          ท้ายเกมนาทีที่ 83 ฮอลแลนด์ ไล่มา 2-3 เมื่อ กองหลังของทีมเยือนโหม่งสกัดไม่ดี มาเข้าทาง บาส ดอสท์ ซึ่งลงมาเป็นสำรองโหม่งจากทางกรอบเขตโทษด้านขวาขึ้นหน้าให้ โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ หลุดไปจิ้มด้วยซ้าย ลอดขา ปีเตอร์ เช็ก ซุกก้นตาข่าย

          เวลาที่เหลือทั้งสองทีมทำอะไรกันไม่ได้อีก จบเกม ฮอลแลนด์ เปิดบ้านพ่าย สาธารณรัฐเช็ก ที่เหลือแค่ 10 คน 2-3 ตกรอบไปอย่างบอบช้ำ แถมเป็นการร่วงยูโร รอบคัดเลือกเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 1984 นอกจากนี้ยังถือเป็นครั้งที่สามติดต่อกันที่ทีม "อัศวินสีส้ม" ไม่สามารถกรุยทางผ่านรอบคัดเลือกยามที่ ฝรั่งเศส เป็นเจ้าภาพอีกด้วย ขณะที่ "ทีมเยือน" เก็บเพิ่มเป็น 22 แต้ม แซง ไอซ์แลนด์ ที่บุกพ่าย ตุรกี 0-1 สองคะแนน คว้าแชมป์กลุ่ม
 

รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม
          ฮอลแลนด์: เยโรน โซต - เคนนี่ เตเต้, เจฟฟรี่ย์ บรูม่า, เฟอร์กิล ฟาน ไดจ์ค, ไฮโร่ ไรเดวัลด์ - จอร์จินโย่ ไวนัลดุม, ดาเล่ย์ บลินด์ เวสลี่ย์ สไนเดอร์ (กัปตันทีม) - อันวาร์ เอล กาห์ซี่, คลาส แยน ฮุนเตลาร์, เมมฟิส เดอปาย

          สาธารณรัฐเช็ก: ปีเตอร์ เช็ก (กัปตันทีม) - พาเวล คาเดราเบ็ค, มาเร็ค ซูชี่, มิชาล คาดเล็ช, ธีโอดอร์ เกเบร เซลาสซี่ - ดาวิด พาเวลก้า -ยีริ สคาลัค, วลาดิเมียร์ ดาริด้า, ยาโรสลาฟ พลาซิล, โยเซฟ ซูราล - โทมัส เนซิด

ผู้ตัดสิน: ดาเมียร์ สโคมิน่า (สโลวีเนีย)