ฟุตบอลนัดอุ่นเครื่องทีมชาติ

วันศุกร์ที่ 27 พฤษภาคม 2559

 อังกฤษ 2 - 1 ออสเตรเลีย  

        สนาม : สเตเดี้ยม ออฟ ไลท์, ซันเดอร์แลนด์, อังกฤษ

 ''สิงโตคำราม'' ให้โอกาส มาร์คัส แรชฟอร์ด กองหน้าดาวรุ่งจากแมนฯ ยูไนเต็ดประเดิมทีมชาติชุดใหญ่ในตำแหน่งตัวจริง โดยมี อดัม ลัลลาน่า ปั้นเกมกับ ราฮีม สเตอร์ลิง ฝั่งออสเตรเลียนำมาโดย มิเล่ เยดินัค กองกลางจากคริสตัล พาเลซ

 ออกสตาร์ตไปได้เพียง 3 นาทีอังกฤษออกนำ 1-0 อย่างรวดเร็ว มาร์คัส แรชฟอร์ด กระแทกบอลออกไปทางซ้ายให้ ราฮีม สเตอร์ลิง รับบอลนอกเขตโทษ แล้วเปิดกลับมาแฉลบแนวรับออสเตรเลียบอลมาเข้าข้อเท้าขวาแรชฟอร์ดซัดแบบไม่ ต้องจับ ส่งบอลเสียบมุมแคบเสาแรกเข้าประตูไป พร้อมกับทำสถิติเป็นนักเตะอายุน้อยที่สุดที่ยิงได้ในเกมประเดิมสนามทีมชาติ อังกฤษในวัย 18 ปี 208 วัน

 เลยมาถึงนาทีที่ 18 เป็นโอกาสของออสเตรเลียบ้าง ทอม โรจิค เก็บบอลได้ทางฝั่งซ้ายระยะเกือบกลางสนาม แล้วลากขึ้นมาเอง ซัดด้วยซ้ายจากระยะ 25 หลา แต่บอลเฉี่ยวโคนเสาสองออกหลังไปอย่างหวุดหวิด

 หลังจากนั้นนาทีที่ 31 อังกฤษพลาดได้ประตูที่สองอย่างน่าเสียดาย เบอร์ทรานด์พาบอลลุยไปทางฝั่งซ้าย แล้วจ่ายเข้าเขตโทศให้แรชฟอร์ดรับบอลแล้วพลิกหลบกองหลังออสเตรเลีย แล้วจ่ายเข้ามาที่เสาแรก อดัม ลัลลาน่า จับแล้วดีดด้วยขวา แต่บอลไปติดตัว แม็ทธิว ไรอัน

 ก่อนจบครึ่งแรก 3 นาทีทีมตราสิงโตได้ลุ้นส่งท้าย จากจังหวะฟรีคิกด้านซ้ายข้างเขตโทษ ไรอัน เบอร์ทรานด์ เล่นลูกสูตร จ่ายเรียดมาหน้าเขตโทษให้ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ยิงด้วยขวา บอลจะเสียบใต้คาน แต่ แม็ทธิว ไรอัน ปัดทิ้งออกหลัง ครบ 45 นาทีแรกอังกฤษออกนำอยู่ 1-0

 กลับมาเตะกันได้ 8 นาที ออสเตรเลียได้ออกอาวุธก่อน จากจังหวะที่ ทอม โรจิค เก็บบอลจังหวะสองได้ที่หน้าเขตโทษ แล้วหวดด้วยซ้าย แต่บอลแรงเหินหลุดกรอบออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย

 ผ่านมาถึงนาทีที่ 55 อังกฤษหนีไปเป็น 2-0 มาร์คัส แรชฟอร์ด ปล่อยบอลหลอกผู้เล่นออสเตรเลียให้ ราฮีม สเตอร์ลิง สอดมารับบอลทางฝั่งซ้าย แล้วลากใช้ความเร็วหลุดเดี่ยวขึ้นมา ก่อนจ่ายขวางหน้าเขตโทษให้ เวย์น รูนี่ย์ จับแล้วตะบันด้วยขวาเต็มข้อจากหน้าเขตโทษ ส่งบอลตุงตาข่ายอย่างเด็ดขาด

 หลังจากนั้นนาทีที่ 65 ทีมผู้ดียิ่งเล่นยิ่งได้ใจ จากจังหวะทิ้งบอลยาวไปทางซ้ายให้รูนี่ย์สปีดไปรับ แล้วจ่ายกลับหลังมาให้บาร์คลี่ย์ที่เพิ่งลงมาเป็นสำรอง ตบมาหน้าเขตโทษให้ เนธาเนียล ไคลน์ ยิงด้วยขวา แต่บอลหลุดกรอบหวุดหวิด

 อีกเพียง 5 นาทีต่อมา ออสเตรเลียพลาดได้ประตูอย่างไม่น่าเชื่อ แอรอน มูย พาบอลหลบผู้เล่นอังกฤษมาได้สวยเลย แล้วจ่ายตามช่องไปให้ ร็อบบี้ ครูส ยิงด้วยขวาจากทางฝั่งขวาของเขตโทษ แต่บอลเบาไปตรงตัวฟอร์สเตอร์เซฟได้

 ช่วงท้ายเกม ออสเตรเลียมาได้ประตู มิลอส เดเกเนค ขึ้นมารับบอลทางฝั่งขวา แล้วเปิดเข้าเขตโทษ เอริก ดายเออร์ ที่เพิ่งลงสนามมาแทน คริส สมอลลิ่ง ที่บาดเจ็บเล็กน้อย พยายามจะโขกสกัด แต่โดนบอลผิดเหลี่ยมเข้าประตูตัวเองไป ครบ 90 นาที อังกฤษเอาชนะออสเตรเลีย 2-1 โดยเกมหน้าจะลงเตะอุ่นเครื่องกับโปรตุเกส วันที่ 2 มิถุนายน

         รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

         อังกฤษ (4-3-3): เฟรเซอร์ ฟอร์สเตอร์ (ทอม ฮีตัน น.87) - เนธาเนียล ไคลน์, จอห์น สโตนส์, คริส สมอลลิ่ง (เอริก ดายเออร์ น.73), ไรอัน เบอร์ทรานด์ - แจ็ค วิลเชียร์ (เวย์น รูนี่ย์ น.46), จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, แดนนี่ ดริงค์วอเตอร์, อดัม ลัลลาน่า (เจมส์ มิลเนอร์ น.46) - มาร์คัส แรชฟอร์ด (รอสส์ บาร์คลี่ย์ น.63), ราฮีม สเตอร์ลิง (แอนดรอส ทาวน์เซนด์ น.76)
 

         ออสเตรเลีย (4-3-3) : แม็ทธิว ไรอัน - โจชัว ริสดอน (มิลอส เดเกเน็ค น.74), มาร์ค มิลลิแกน, เบลี่ย์ ไรท์, แบรด สมิธ - มิเล่ เยดินัค (กัปตันทีม), อารอน มุย (แจ็คสัน เออร์ไวน์ น.84), มัสซิโม่ ลูออนโก้ (คริสโตเฟอร์ อิโคโนมิดิส น.58), โทมัส โรจิช (โทมี่ ยูริช น.73) - ร็อบบี้ ครูส (เคร็ก กู้ดวิน น.84), เจมี่ แม็คลาเรน (แม็ทท์ แม็คเคย์ น.58)
 

         ผู้ตัดสิน : แดนนี่ มัคเคลี่ (ฮอลแลนด์)