คริส สมอลลิ่ง สวมบทฮีโร่โหม่งประตูชัย พา "สิงโตคำราม" อังกฤษ เปิดถิ่นเฉือน "ฝอยทอง" โปรตุเกส ที่เหลือผู้เล่น 10 คน 1-0 เก็บชัยชนะ 3 เกมรวดในการอุ่นเครื่อง ก่อนลุยศึกยูโร 2016 ที่ฝรั่งเศสต่อไป ในการแข่งขันฟุตบอลกระชับมิตรทีมชาติ คืนวันพฤหัสบดีที่ 2 มิถุนายน ที่ผ่านมา

ฟุตบอลกระชับมิตรทีมชาติ
วันพฤหัสบดีที่ 2 มิถุนายน 2559
อังกฤษ 1-0 โปรตุเกส

สนาม : เวมบลีย์

อังกฤษ ลงเล่นเกมอุ่นเครื่องเป็นนัดสุดท้ายก่อน ยูโร 2016 ได้ แกรี่ เคฮิลล์ สลัดเดี้ยงพร้อมยืนเซนเตอร์แบ็กกับ คริส สมอลลิ่ง ฟูลแบ็กสองฝั่งวาง ไคล์ วอล์คเกอร์ กับ แดนนี่ โรส

    เอริค ดายเออร์ ยืนห้อยต่ำในระบบ 4-4-2 ไดมอนด์ เจมส์ มิลเนอร์ ประจำการตรงกลางกับ เดเล่ อัลลี่ ส่วน เวย์น รูนี่ย์ ยืนหน้าต่ำปั้นเกมป้อน แฮร์รี่ เคน กับ เจมี่ วาร์ดี้ ที่กลับมารายงานตัวหลังออกจากแคมป์ไปลั่นระฆังวิวาห์ในช่วงก่อนหน้านี้

    ด้าน โปรตุเกส ไม่มี คริสเตียโน่ โรนัลโด้ กับ เปเป้ ซึ่งยังได้พักหลังเสร็จสิ้นภารกิจนัดชิงชนะเลิศ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ทำให้แนวรุกวาง ชูเอา มาริโอ, นานี่ และ ราฟา ซิลวา เป็น 3 ประสานในแดนหน้า ส่วนแนวรับส่ง บรูโน่ อัลเวส ดูแลหลังบ้านกับ ริคาร์โด้ คาร์วัลโญ่

    เริ่มเล่นไป 12 นาที โอกาสแรกเป็นของ "สิงโตคำราม" ไคล์ วอล์คเกอร์ ตัดบอลเปิดยาวจาก รุย ปาตริซิโอ แล้วบอลหลุดถึง แฮร์รี่ เคน ปาดจากหน้าเขตโทษไปหน้าประตูให้ เวย์น รูนี่ย์ ล้มตัวชาร์จด้วยซ้ายติดเซฟ ปาตริซิโอ ก่อนได้ยินเสียงนกหวีดเป่าล้ำหน้า

    6 นาทีถัดมา โปรตุเกส ทิ้งโอกาสทอง เจมส์ มิลเนอร์ คืนหลังพลาดไปเข้าทาง นานี่ ลากมาระยะ 30 หลาแล้วเลือกส่องไกลเหินข้ามคานไปอย่างน่าผิดหวัง

    นาที 23 เจ้าถิ่นลุยขึ้นมาโดย ไคล์ วอล์คเกอร์ ถึงหน้าเขตโทษฝั่งขวาก่อนบรรจงชิพไปเสาไกลให้ เวย์น รูนี่ย์ เทกตัวโหม่งระยะ 7 หลาไปเข้ามือ รุย ปาตริซิโอ สบายๆ

    ให้หลัง 6 นาที โปรตุเกส ได้ฟรีคิกริมเส้นข้างสนามฝั่งขวาระยะ 25 หลา ชูเอา มูตินโญ่ เปิดไปหน้าประตูให้ ริคาร์โด้ คาร์วัลโญ่ ลอยตัวโหม่งสะบัดข้ามคานออกหลังไป

    นาที 32 อังกฤษ เกือบได้เฮ แดนนี่ โรส เปิดเรียดจากซ้ายไปหน้าเขตโทษ เวย์น รูนี่ย์ เก็บได้แล้วพยายามจ่ายออกข้างให้เพื่อนแต่ติดบล็อกแนวรับทีมเยือนปลิ้นมาหน้าเขตโทษ ไคล์ วอล์คเกอร์ วิ่งเข้ามาตะบันด้วยขวาติดไซด์ก้อยเลี้ยวหนีเสาขวามือไปไม่ไกล

     ขุนพลฝอยทองมาเหลือ 10 คนใน นาที 36 จากจังหวะที่ บรูโน่ อัลเวส กระโดดยกเท้าสูงใส่หน้าของ แฮร์รี่ เคน ก่อนโดนใบแดงไล่ออกจากสนามทันที เคราะห์ดีที่ เคน ไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆ

    ถัดมา 3 นาที อังกฤษ ได้ลุ้นจากจังหวะสวนกลับเร็ว เวย์น รูนี่ย์ แทงไปหน้าเขตโทษฝั่งขวาให้ แฮร์รี่ เคน สับไกยิงเรียดแต่เบาไป รุย ปาตริซิโอ ล้มตัวรับสบาย ก่อนจบครึ่งแรกสกอร์ 0-0

 นาทีที่63 เข้าสู่ครึ่งหลัง อังกฤษที่ตัวมากกว่าก็จริง แต่โอกาสเข้าทำยังหาแบบจะแจ้งไม่ค่อยได้ ลูกนี้ เอริก ดายเออร์ สับไกไปตรงตัว รุย ปาตริซิโอ

    นาทีที่ 83 กลายเป็นโปรตุเกสที่มีโอกาส เมื่อ เรนาโต้ ซานเชส ลุยขึ้นมาก่อนไหลออกซ้ายให้ ริคาร์โด้ กวาเรสม่า ลากเลื้อยก่อนแต่งเข้าขวาแล้วปั่นทันที ทว่าบอลหลุดเสาไกลออกไป

    นาทีที่ 86 ทว่าทัพสิงโตก็มาได้ประตูชัย จากจังหวะที่ รุย ปาตริซิโอ ทุบลูกฟรีคิกไปเข้าทาง ราฮีม สเตอร์ลิง ทางฝั่งซ้ายก่อนเปิดเข้ากลางให้ คริส สมอลลิ่ง เทกตัวโหม่งเข้าประตูไป จบเกม อังกฤษเฉือนชนะโปรตุเกส 1-0

   
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
    อังกฤษ : โจ ฮาร์ท, ไคล์ วอล์คเกอร์, แกรี่ เคฮิลล์, คริส สมอลลิ่ง, แดนนี่ โรส, เอริค ดายเออร์, เจมส์ มิลเนอร์, เดเล่ อัลลี่, เวย์น รูนี่ย์, แฮร์รี่ เคน, เจมี่ วาร์ดี้
    โปรตุเกส : รุย ปาตริซิโอ, วิเอยรินญ่า, บรูโน่ อัลเวส, ริคาร์โด้ คาร์วัลโญ่, เอลิเซว, ดานิโล่ เปเรยร่า, อาเดรียน ซิลวา, ชูเอา มูตินโญ่, ชูเอา มาริโอ, นานี่, ราฟา ซิลวา
ผู้ตัดสิน : มาร์โก กุยด้า