สิงโตประเดิมยูโร!จัดหนักส่งรูน-เคนลงปะทะหมีขาว

11/06/2016 ขอบคุณ siamsport

Tags: ฟุตบอลโลก มาร์กเซย ตุรกี โปรตุเกส ภาพ ฐานะ บอลโลก ฟุตบอลโลก 2014 ฟุตบอล

"สิงโตคำราม" อังกฤษ เตรียมจัดทัพเต็มอัตราศึกโดยจะส่ง เวย์น รูนี่ย์ ผนึก แฮร์รี่ เคน ลุ้นล่าชัย เกมพบกับ "ขุนพลหมีขาว" รัสเซีย ในศึกฟุตบอล ยูโร 2016 (รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่มบี) คืนวันเสาร์ที่ 11 มิ.ย. ศกนี้

ปรีวิวฟุตบอล ยูโร 2016

(รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม บี)
วันเสาร์ที่ 11 มิถุนายน 2559
อังกฤษ - รัสเซีย
ถ่ายทอดสด : ช่อง 3, เวลา : 02.00 น.

สนาม : สต๊าด เวโลโดรม (มาร์กเซย)

อังกฤษ ของกุนซือ รอย ฮ็อดจ์สัน หนึ่งในทีมเต็ง ยูโร 2016 หลังผ่านเข้าสู่รอบสุดท้ายด้วยการจบอันดับ 1 กลุ่ม อี เป็นทีมเดียวที่คว้าชัยชนะ 10 นัดรวด

ผลงานอุ่นเครื่อง 3 นัดในช่วงโค้งสุดท้ายก็ชนะรวด เหนือตุรกี 2-1, ออสเตรเลีย 2-1 และโปรตุเกส 1-0 ซึ่งเป็นการเล่นในบ้านทั้งหมด

สภาพทีมชุดนี้บินถึง ฝรั่งเศสเมื่อวันจันทร์ มีปัญหาเดียวคือ ไรอัน เบอร์ทรานด์ แบ็กซ้ายที่ปัญหาบาดเจ็บต้องแยกซ้อม และไม่พร้อมสำหรับเกมนี้

คริ ส สมอลลิ่ง เซนเตอร์ฮาล์ฟที่มีปัญหาเจ็บเข่าตอนซ้อม ต้องใช้น้ำแข็งประคบ ล่าสุดเจ้าตัวยืนยันไม่มีปัญหา และพร้อมลงเล่นนัดเปิดสนาม

แกรี่ เคฮิลล์ เซนเตอร์อีกคนที่ก่อนหน้านี้ต้องฉีดยาแก้ปวดลงเล่น พร้อมลงเล่นเช่นกัน

การ จัดทัพ โจ ฮาร์ท มือ 1 ลงเฝ้าเสา แบ็กขวา ไคล์ วอล์คเกอร์ ได้โอกาสก่อนหน้า เนธาเนียล ไคลน์ ส่วนแบ็กซ้าย แดนนี่ โรส จับจองแน่นอน

คู่เซนเตอร์ฮาล์ฟ คริส สมอลลิ่ง พร้อมประจำการกับ แกรี่ เคฮิลล์ โดยมี จอห์น สโตนส์ เป็นตัวสแตนด์บาย

แดนกลาง ตัวเลือกเพียบ แต่น่าจะเป็น เอริก ดายเออร์ ประสานงานกับ เดเล่ อัลลี่ แนวรุกวาง ราฮีม สเตอร์ลิง, เวย์น รูนี่ย์ และ อดัม ลัลลาน่า สร้างสรรค์เกมรุกข้างหลัง แฮร์รี่ เคน

ฝั่งรัสเซียของ เทรนเนอร์ เลโอนิด สลุตสกี้ เข้ารอบมาในฐานะอันดับ 2 กลุ่ม จี ซึ่งสลุตสกี้พาทีมกวาดชัยชนะ 4 นัดสุดท้าย แซงสวีเดนเข้ารอบโดยอัตโนมัติ

ผล งานอุ่นเครื่องในช่วงโค้งสุดท้ายถือว่าย่ำแย่ทีเดียว เพราะแพ้ต่อ เช็ก 1-2 และเสมอเซอร์เบีย 1-1 ย้อนกลับไปก่อนหน้านั้นในช่วงเดือนมีนาคมก็แพ้ฝรั่งเศส 2-4

ทีม ชุดนี้ต้องเสีย อลัน ชาโกเยฟ เพลย์เมกเกอร์ตัวเก่ง ที่กระดูกเท้าแตก แถมล่าสุดต้องเสีย อิกอร์ เดนิซอฟ กองกลางที่เจ็บต้นขาจากเกมอุ่นเครื่องนัดสุดท้ายที่เสมอเซอร์เบีย 1-1 ด้วย

คนที่เรียกมาแทนคือ อาร์ตูร์ ยูซูปอฟ มิดฟิลด์จากเซนิต ที่เพิ่งติดทีมชาติไปแค่ 2 นัดเท่านั้น

11 ตัวจริงคาดว่าจะใช้ อิกอร์ อากินเฟเยฟ ลงเฝ้าเสา แผงหลังประกอบด้วย อีกอร์ สโมลนิคอฟ, เซอร์เก อิกนาเชวิช, อเล็กเซ เบเรซุตสกี้ และ จอร์จี้ เชนนิคอฟ

แดนกลาง เลือก โรมัน นอยสตัดเตอร์ น่าจะได้โอกาสก่อน โรมัน ชิโรคอฟ ในการรับบทห้องเครื่อง ขนาบข้างด้วย โอเล็ก ชาตอฟ กับ อเล็กซานเดอร์ โกโลวิน แดนหน้าวาง อเล็กซานเดอร์ โคโคริน กับ เฟดอร์ สโมลอฟ เดินเกมรุกป้อน อาร์เต็ม ชิวบา ศูนย์หน้าเจ้าของส่วนสูง 196 เซนติเมตร ที่ยิง 8 ประตู เป็นดาวซัลโวรอบคัดเลือก กลุ่ม จี ร่วมกับ ซลาตัน อิบราฮิโมวิช

รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม

อังกฤษ (4-2-3-1) : โจ ฮาร์ท - ไคล์ วอล์คเกอร์, คริส สมอลลิ่ง, แกรี่ เคฮิลล์, แดนนี่ โรส - เอริค ดายเออร์, เดเล่ อัลลี่ - ราฮีม สเตอร์ลิง, เวย์น รูนี่ย์, อดัม ลัลลาน่า - แฮร์รี่ เคน

รัสเซีย (4-3-3) : อีกอร์ อากินเฟเยฟ - อีกอร์ สโมลนิคอฟ, เซอร์เก อิกนาเชวิช, อเล็กเซ เบเรซุตสกี้, จอร์จี้ เชนนิคอฟ - โอเล็ก ชาตอฟ, โรมัน นอยสตัดเตอร์, อเล็กซานเดอร์ โกโลวิน - อเล็กซานเดอร์ โคโคริน, อาร์ตยอม ซิวบ้า, เฟดอร์ สโมลอฟ

ผู้ตัดสิน : นิโกล่า ริซโซลี่ (อิตาลี)

เกร็ดเพิ่มเติมที่น่าสนใจ
- นับตั้งแต่แยกตัวจากสหภาพโซเวียต ทีมชาติรัสเซีย และ อังกฤษ เจอกันเพียง 2 ครั้งในรอบคัดเลือก ยูโร 2008 โดยอังกฤษชนะที่เวมบลีย์ (3-0) ขณะที่รัสเซียชนะที่มอสโก (2-1)
- ครั้งล่าสุดที่อังกฤษพบรัสเซีย (หรือสหภาพโซเวียต) ในยูโร เกิดขึ้นเมื่อปี 1988 ซึ่งโซเวียตชนะ 3-1 ในรอบคัดเลือก โดยครั้งเดียวก่อนหน้านั้นที่คู่นี้เจอกันในรอบสุดท้าย เกิดขึ้นปี 1968 ซึ่งอังกฤษชนะ 2-0 (ชิงอันดับ 3)
- อังกฤษ ผ่านเข้ารอบสุดท้ายยูโร เป็นครั้งที่ 9 โดยพวกเขาไม่ผ่านเข้ารอบในยูโรหนล่าสุดที่จัดที่ฝรั่งเศส (1984)
- อังกฤษ ไม่เคยไปไกลกว่ารอบรองชนะเลิศยูโร โดยจบอันดับ 3 ในปี 1968 และตกรอบตัดเชือกในปี 1996 นอกจากนั้น อังกฤษยังตกรอบจากการดวลจุดโทษ 3 ใน 4 ครั้งหลังสุดในยูโรรอบสุดท้าย (1996, 2004, 2012)
- อังกฤษ ไม่เคยชนะในนัดแรกของยูโร รอบสุดท้าย (เสมอ 4 แพ้ 4)
- 4 จาก 6 ประตูหลังสุดของอังกฤษในยูโร ได้จากเซ็ตพีช (3 ลูกจากเตะมุม, 1 ลูกได้จากจังหวะต่อเนื่องจากฟรีคิก)
- อังกฤษ เป็นทีมเดียวที่ชนะทุกนัดในรอบคัดเลือก ยูโร 2016 (10 เกม)
- นับรวมตอนรวมชาติเป็นสหภาพโซเวียต นี่เป็นการเล่นรอบสุดท้าย ยูโร ครั้งที่ 11 ของรัสเซีย มากเป็นอันดับ 2 รองจากเยอรมัน (12)
- สมัยเป็นสหภาพโซเวียต พวกเขาคว้าแชมป์ยูโรครั้งแรกในปี 1960 โดยชนะยูโกสลาเวีย 2-1 หลังต่อเวลาพิเศษ นัดชิงชนะเลิศ โดยพวกเขาแพ้ในนัดชิงชนะเลิศ 3 ครั้ง (1964, 1972 และ 1988)
- รัสเซีย ทำคลีนชีตได้แค่ 2 จาก 15 เกมที่เล่นยูโร รอบสุดท้าย (กับกรีซและสวีเดน เมื่อมิถุนายน 2008)
- 2 ครั้งหลังสุดที่รัสเซียเล่นนัดแรกในยูโร จบลงด้วยสกอร์ 4-1 (แพ้สเปน ในปี 2008, ชนะสาธารณรัฐเช็ก ในปี 2012)
- อาร์เต็ม ชิวบา มีส่วนร่วม 50% จากประตูทั้งหมดของรัสเซียในรอบคัดเลือก โดยยิง 8 จ่าย 1 จาก 18 ประตูของรัสเซีย มีเพียง แกเร็ธ เบล (82%) และ ซลาตัน อิบราฮิโมวิช (58%) ที่ทำได้มากกว่าจากบรรดาผู้เล่นใน 24 ทีมสุดท้าย
- รอย ฮ็อดจ์สัน นำอังกฤษเล่นทัวร์นาเม้นต์ใหญ่ครั้งที่ 3 ต่อจากยูโร 2012 และฟุตบอลโลก 2014
มาก ที่สุดในบรรดากุนซือ "สิงโตคำราม" นับตั้งแต่ยุค สเวน โกรัน อีริคส์สัน (ฟุตบอลโลก 2002, ยูโร 2004, ฟุตบอลโลก 2006) และเป็นกุนซืออายุมากที่สุดในยูโรครั้งนี้ (68 ปี)
- นี่เป็นทัวร์นาเมนต์ใหญ่ครั้งแรกของ เลโอนิด สลุตสกี้ ในฐานะกุนซือทีมชาติ และเป็นโค้ชอายุน้อยที่สุดในยูโรครั้งนี้ (44 ปี)