ฮัล ร็อบสัน-คานู กลายเป็นยอดซูเปอร์ซับหลังลงมาเป็นสำรองซัดประตูชัยช่วยให้ "มังกรแดง" เวลส์ เฉือนสโลวาเกีย 2-1 ช่วงท้ายเกมหวุดหวิดเก็บสามแต้มประเดิมสนามได้สำเร็จ ในศึกฟุตบอลยูโร 2016 ที่ประเทศฝรั่งเศสเมื่อคืนวันเสาร์ที่ 11 มิ.ย.ที่ผ่านมา

ฟุตบอลยูโร 2016 กลุ่ม บี

วันเสาร์ที่ 11 มิถุนายน 2559

เวลส์ 2 - สโลวาเกีย 1

สนาม : นูโว สต๊าด เดอ บอร์กโดซ์ (บอร์กโดซ์), ประเทศฝรั่งเศส

    ''มังกรแดง'' เวลส์ ลงเล่นในนัดแรกของกลุ่ม บี เจอกับสโลวาเกีย ที่สนามสต๊าด เดอ บอร์กโดซ์  ซึ่งทางเวลส์ต้องเปลี่ยนตัวผู้รักษาประตูมือหนึ่งหลังจากที่ เวย์น เฮนเนสซี่ย์ ผู้รักษาประตูประสบการณ์สูงที่สุดของทีมเจ็บหลังระหว่างวอร์มอัพจึงต้องส่ง แดนนี่ วอร์ด ผู้รักษาประตูมือสองของทีมลิเวอร์พูลลงเล่นตัวจริงเป็นการเล่นตัวจริงครั้งแรกตั้งแต่เล่นนัดเดียวในเดือนมีนาคม ในขณะที่ โจ เล็ดลี่ย์ กองกลางที่เจ็บที่ขาเมื่อห้าสัปดาห์ก่อนก็อยู่ในสำรอง ทำให้ เดวิสเอ็ดเวิร์ดส์ ได้เล่นตัวจริงแทนในตำแหน่งของเขาร่วมกับ โจ อัลเลน นักเตะลิเวอร์พูล และมี แกเร็ธ เบล กองหน้าจากเรอัล มาดริด กองหน้าคู่กับ โจนาธาน วิลเลี่ยมส์ ส่วนทางสโลวาเกีย นั้นทาง ยาน โคซัค โค้ชก็ส่ง มิชาล ดูริส ลงไปเล่นตัวจริงมากกว่า อดัม เนเมช ในตำแหน่งกองหน้าเป้า 

     เริ่มเกมในครึ่งแรกไม่ถึง 5 นาทีสโลวาเกียโต้กลับโดยที่ โรเบิร์ต มัค จ่ายบอลให้กับ มาเร็ค ฮัมซิค ลากบอลหนีแนวรับของเวลส์เข้าไปในเขตโทษยิงด้วยเท้าขวา แต่ เบน เดวิส กองหลังเวลส์เข้าไปสกัดหน้าประตูได้อย่างหวุดหวิดทั้งๆ ที่ แดนนี่ วอร์ด ผู้รักษาประคูไม่ทันแล้วทำให้เวลส์รอดพ้นจากการเสียประตูไปนิดเดียว

    จากนั้นเวลส์ก็มีโอกาสบุกขึ้นมาเหมือนกัน โดย โจ อัลเลน มีโอกาสยิงแต่ติดแนวรับของสโลวาเกีย และต่อมานาทีที่ 10 เวลส์ได้ลูกฟรีคิกหน้ากรอบเขตโทษ เมื่อ พาทริค ฮโรซอฟสกี้ ไปทำฟาวล์ โจนาธาน วิลเลี่ยมส์  และ แกเร็ธ เบลยิงฟริคิกระยะ 22 หลา ด้วยเท้าซ้ายโค้งข้ามกำแพงตั้งรับของสโลวาเกียมุดเข้าประคูไปให้เวลส์นำไป 1-0

 นาทีที่ 20 สโลวาเกียมีโอกาส เมื่อ วลาดิเมียร์ ไวส์ ยิงจากนอกกรอบเขตโทษแต่หลุดออกไปอย่างน่าเสียดาย

    เกมโดยรวมในช่วงครึ่งชั่วโมงแรกทางเวลส์ครองบอลได้เหนือกว่า และมีโอกาสสร้างความกดดันต่อแนวรับของสโลวะเกียได้มากกว่าแต่ทางสโลวาเกียก็อาศัยการโต้กลับขึ้นมาได้บ้างเหมือนกัน    

    และช่วงท้ายครึ่งแรกสโลวาเกียมีโอกาสบุกขึ้นไปสร้างความกดดันต่อแนวรับของเวลส์ นาที 43 ไวส์ ยิงแต่ติดบล็อกต่อมา มาร์ติน สเคอร์เทล เซนเตอร์แบ็กกัปตันทีมขึ้นไปโหม่งจากลูกฟรีคิกแต่เฉียดไปนิดเดียว

    โอกาสสุดท้ายช่วงทดเจ็บ ''มังกรแดง'' ลุ้นบวกประตูเพิ่ม นีล เทย์เลอร์ เปิดจากฝั่งซ้ายขวางถึงหน้าเขตโทษให้เบลได้สับไก แต่ก็ตรงตัวโคซาชิค จบครึ่งแรก เวลส์นำอยู่ 1-0 

   ครึ่งหลังทั้งสองทีมยังไม่มีการเปลี่ยนตัวผู้เล่น และเวลส์ยังคงเล่นเกมรุกเข้าใส่ทางสโลวาเกียเหมือนเดิม นาทีที่ 56 อารอน แรมซี่ย์ โหม่งแต่โดนผู้รักษาประตูสโลวาเกียรับได้ และทางสโลวาเกียได้ลุ้นครั้งแรกของการเล่นครึ่งหลังช่วงนาทีที่ 57 เมื่อ โรเบิร์ต มัค พาบอลไปยิงหน้ากรอบเขตโทษระยะ 19 หลา แต่โด่งข้ามคานออกไป

    นาทีที่ 58 โจ อัลเลน เปิดบอลโด่งไปหน้าประตูให้กับ แกเร็ธ เบล โหม่งแต่โดนผู้รักษาประตูสโลวาเกียคว้าเอาไว้ได้ตรงเสาพอดี

     ต่อมานาทีที่ 60 สโลวาเกียเปลี่ยนตัวคนแรก อดัม เนเมช ไปแทน มิชาล ดูริส และส่ง ออนเดรย์ ดูด้า ลงไปแทน พาทริค ฮโรซอฟสกี้ และนาทีต่อมา ดูด้าลากบอลเข้าไปยิงในเขตโทษเข้าตรงเสาสุดที่ แดนนี่ วอร์ด จะรับได้ทำให้สโลวาเกียตีเสมอเป็น 1-1

 จากนั้นสโลวาเกียได้ลูกฟรีคิกหน้ากรอบเขตโทษระยะ 25 หลา แต่ วลาดิเมียร์ ไวส์ ยิงโด่งข้ามคานออกไปแบบไม่มีลุ้น และภาพรวมของเกมเปลี่ยนไปทางสโลวาเกียบุกเข้าใส่เวลส์อย่างต่อเนื่อง

    นาทีที่ 69 เวลส์เปลี่ยนตัวคนแรกส่ง โจ เล็ดลี่ย์ ลงไปแทน เดวิด เอ็ดเวิร์ดส์  และ ต่อมาส่ง ฮัล ร็อบสัน-คานู ลงไปแทน โจนาธาน วิลเลี่ยมส์ ซึ่งก็ทำให้เกมรุกของเวลส์ดูดีขึ้นมาบ้าง และนาทีที่ 74 ร็อบสัน-คานู เปิดบอลโด่งให้กับแรมซี่ย์โหม่ง แต่หลุดไปนิดเดียว 

    นาทีที่ 81 เวลส์ได้เฮ เมื่อแรมซี่ย์พาบอลเข้าไปในเขตโทษ แต่กองหลังของสโลวาเกียไม่เข้าสกัด บอลหลุดไปทาง ร็อบสัน-คานู ยิงด้วยเท้าซ้ายเข้าไปให้เวลส์นำ 2-1 และเป็นประตูปิดท้ายเวลส์คว้าชัยชนะไป 2-1 เก็บสามแต้มประเดิมศึกยูโรหนนี้ได้สำเร็จ

 รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

    เวลส์ (3-5-2)  : แดนนี่ วอร์ด ; เจมส์ เชสเตอร์, แอชลี่ย์ วิลเลี่ยมส์ (กัปตันทีม), เบน เดวิส ; คริส กันเทอร์, อารอน แรมซี่ย์, โจ อัลเลน, เดวิด เอ็ดเวิร์ดส์, นีล เทย์เลอร์ ; แกเร็ธ เบล, โจนาธาน วิลเลี่ยมส์ 

    สโลวาเกีย (4-2-3-1) : มาตุส โคซาชิค ; ปีเตอร์ เปคาริค, มาร์ติน สเคอร์เทล (กัปตันทีม), ยาน ดูริช่า, ดูซาน สเวนโต้ ; ยูราย คูชก้า, พาทริค ฮโรซอฟสกี้ ; โรเบิร์ต มัค, มาเร็ค ฮัมซิค, วลาดิเมียร์ ไวส์ ; มิชาล ดูริส

    ผู้ตัดสิน : สไวน์ ออดวาร์ โมน (นอร์เวย์)