"มังกรแดง" เวลส์ ฟอร์มสุดแกร่งทั้งที่เป็นฝ่ายตามหลังก่อนรวมพลังฮึดแซงเอาชนะเบลเยียม 3-1 ส่งผลให้ทะลุผ่านเข้าไปเล่นในรอบรองชนะเลิศได้เป็นหนแรก โดยจะเข้าไปพบกับ โปรตุเกส ในวันพุธนี้ ในศึกยูโร2016ที่ประเทศฝรั่งเศส เมื่อวันศุกร์ที่ 1 ก.ค.ที่ผ่านมา

ฟุตบอลยูโร 2016
รอบก่อนรองชนะเลิศ
วันศุกร์ที่ 1 กรกฎาคม 2559
เวลส์ 3 - 1 เบลเยียม

    
    คริส โคลแมน นำทัพ ''มังกรแดง'' ผ่านเข้ารอบ 8 ทีมด้วยการเอาชนะไอร์แลนด์เหนือ 1-0 ยังคงใช้ผู้เล่นชุดเดิม มีเพียง ฮัล ร็อบสัน-คานู ที่สตาร์ตเป็นตัวจริงก่อน แซม โว้คส์ เพลย์เมกเกอร์ยังเป็น แกเร็ธ เบล ขณะที่แผงมิดฟิลด์ ยังเป็นหน้าที่ของ อารอน แรมซี่ย์, โจ เล็ดลี่ย์ และ โจ อัลเลน

    ฟาก ''ปีศาจแดงแห่งยุโรป'' ที่ไล่ถล่มฮังการี 4-0 ในรอบ 16 ทีม มีปรับทัพ 2 ตำแหน่ง เจสัน เดนาเยอร์ ได้ลงคุมแนวรับร่วมกับ โทบี้ อัลเดอร์ไวเรลด์ แทน โธมัส แฟร์มาเล่น รวมถึง จอร์แดน ลูกากู ที่ได้รับโอกาสลงเล่นเป็นตัวจริงแทน แยน แฟร์ต็องเก้น ที่ไม่ผ่านฟิต ส่วนแนวรุกเป็นรายเดิม โรเมลู ลูกากู ค้ำแดนหน้า เควิน เดอ บรอยน์ ปั้นเกมตรงกลาง ขณะที่ริมเส้นจัด เอแด็น อาซาร์ และ ยานนิค การ์ราสโก้ โจมตี

    เริ่มครึ่งแรกได้ 7 นาที เบลเยียม พลาดโอกาสขึ้นนำ เควิน เดอ บรอยน์ เบิ้ลเร็วให้ โรเมลู ลูกากู หลุดเข้าเขตโทษด้านซ้าย ก่อนเปิดข้ามไปเสาสอง ยานนิค การ์ราสโก้ จับหนึ่งจังหวะแล้วแปด้วยขวาไปติด เวย์น เฮนเนสซี่ย์ จากนั้น โธมัส เมอนิเย่ร์ ซ้ำดาบสองแต่ นีล เทย์เลอร์ เคลียร์ทิ้งจากเส้นหวุดหวิดแต่บอลยังเข้าทาง เอแด็น อาซาร์ กดด้วยซ้ายเต็มข้อไปติดบล็อก นีล เทย์เลอร์ ข้ามคาน

    แต่ เบลเยียม เป็นฝ่ายขึ้นนำจนได้ ในนาทีที่ 13 เอแด็น อาซาร์ ครองบอลตรงฝั่งซ้ายก่อนไหลกลับมาให้ รัดย่า นาอิงโกลัน ตั้งป้อมซัดด้วยขวาเต็มหลังเท้าระยะ 25 เมตรบอลพุ่งเป็นกระสุนปืนใหญ่ยัดเสาแรกผ่านปลายมือ เวย์น เฮนเนสซี่ย์ ตุงตาข่ายงามหยด

    ทัพ ''มังกรแดง'' หวิดตามตีเสมอได้ในนาทีที่ 26 อารอน แรมซี่ย์ ได้บอลหลุดเข้าเขตโทษด้านขวาก่อนตบกลับเข้ากลางให้ นีล เทย์เลอร์ วิ่งมาแปด้วยขวาจ่อๆ 6 หลา แต่ ติโบต์ กูร์กตัวส์ โชว์ซูเปอร์เซฟได้เยี่ยม

    เวลส์ ตามตีเสมอจนได้ ในนาทีที่ 31 อารอน แรมซี่ย์ ครอสลูกเตะมุมด้านขวาโค้งเข้ากลางให้  แอชลี่ย์ วิลเลี่ยมส์ โถมโขกโล่งๆ ย้อนเสียบเสาแรกเด็ดขาดขยับสกอร์เท่ากันที่ 1-1 จบครึ่งแรก เวลส์ เสมอ เบลเยียม 1-1

    เริ่มครึ่งหลังได้ 3 นาที เบลเยียม ทักทายได้หวาดเสียว มารูยาน เฟลไลนี่ แตะออกขวาให้ โธมัส เมอนิเย่ร์ ตั้งป้อมหยอดเข้ากลางให้ โรเมลู ลูกากู โขกเช็ดระยะ 6 หลาหลุดเสาสองไปนิดเดียว

    เบลเยียม ยังเร่งเครื่องหวังเอาประตูในนาทีที่ 50 เอแด็น อาซาร์ พาบอลลุยขึ้นมาทางกราบซ้ายก่อนลากตัดเข้าในผ่าน เจมส์ เชสเตอร์ และ คริส กันเทอร์ เข้าไปกดด้วยขวาเต็มข้อบอลพุ่งหลุดเสาไกลหวุดหวิด

    เบลเยียม ที่บุกกดดันดันมาโดน เวลส์ ส่องแซงนำ 2-1 ในนาทีที่ 55 แกเร็ธ เบล วางบอลยาวจากแดนตัวเองขึ้นหน้าให้ อารอน แรมซี่ย์ หลุดเข้าเขตโทษฝั่งขวาก่อนเปิดยัดเข้ากลางให้ ฮัล ร็อบสัน-คานู จับบอลลงก่อนพลิกหลอก โทบี้ อัลเดอร์ไวเรลด์ และ เจสัน เดนาเยอร์ ที่โถมเข้าพรวด เข้าไปล่อเป้าด้วยซ้ายระยะ 12 หลา ไม่เหลือ

    เบลเยียม พยายามเอาคืนในนาทีที่ 80 เอแด็น อาซาร์ ไหลสั้นให้ โรเมลู ลูกากู แตะคืนมาที่ อักเซิ่ล วิตเซิ่ล วางเท้าซัดด้วยขวานอกกรอบบอลเหินข้ามคานออกไป

    ท้ายเกม นาที 86 เวลส์ มาได้ประตูย้ำชัยจากจังหวะที่ คริส กันเทอร์ เปิดบอลด้านข้างทางขวาเข้ามาเสาแรกให้ แซม โว้กส์ ที่เพิ่งลงมาโขกบอลเข้าไปให้ทีมเอาชนะไปเด็ดขาด 3-1 ก่อนจบเกมด้วยสกอร์นี้เข้ารอบรองชนะเลิศไปพบกับ โปรตุเกส ในวันพุธนี้
 

รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม

    เวลส์ (3-5-2) : เวย์น เฮนเนสซี่ย์ ; เจมส์ เชสเตอร์, แอชลี่ย์ วิลเลี่ยมส์, เบน เดวิส ; คริส กันเทอร์, โจ อัลเลน, โจ เล็ดลี่ย์, อารอน แรมซี่ย์, นีล เทย์เลอร์ ; แกเร็ธ เบล ,ฮัล ร็อบสัน-คานู
   
    เบลเยียม (4-2-3-1) : ติโบต์ กูร์กตัวส์ ; โธมัส เมอนิเย่ร์, โทบี้ อัลเดอร์ไวเรลด์, เจสัน เดนาเยอร์, จอร์แดน ลูกากู ; อักเซิ่ล วิตเซิ่ล, รัดย่า นาอิงโกลัน ; ยานนิค การ์ราสโก้, เควิน เดอ บรอยน์, เอแด็น อาซาร์ ; โรเมลู ลูกากู
   
    ผู้ตัดสิน : ดาเมียร์ สโคมิน่า (สโลวีเนีย)