ฟุตบอลโลก 2018

(รอบคัดเลือก โซนยุโรป กลุ่ม ซี)

วันศุกร์ที่ 11 พฤศจิกายน 2559

ซานมารีโน 0 - เยอรมัน 8

         สนาม : สตาดิโอ โอลิมปิโก ดิ เซอร์ราวัลเล

          ซานมารีโน สมันน้อยประจำกลุ่ม ส่งให้ มัตเตีย สเตฟาเนลลี่ ยืนหอก ขณะที่ฝั่ง ''อินทรีเหล็ก'' วางใจ โธมัส มุลเลอร์ ที่แม้ว่าจะฟอร์มห่วยในเกมลีก แต่เป็นดาวซัลโวประจำทีมในรายการนี้ (4) ลงเล่นในแนวรุก โดยมีดาวรุ่งหน้าใหม่อย่าง เบนจามิน เฮนริช และ แซร์จ นาบรี้ ได้ออกสตาร์ตในตำแหน่งแบ็กขวาและปีกตามลำดับ

          ออกสตาร์ตไปได้ 7 นาที เยอรมัน ออกนำ 1-0 อิลคาย กุนโดกัน ตักบอลข้ามกองหลังจากระยะเกือบกลางสนามเข้าไปในเขตโทษให้ ซามี่ เคดิร่า สอดไปดึงบอลลง ล็อกหลบโกล แล้วยิงนิ่มๆ เข้าประตูไป

          อีก 2 นาทีต่อมา ผู้มาเยือนหนีไป 2-0 กองหลังเจ้าบ้านสกัดบอลออกจากเขตโทษไม่ดีไปเข้าทาง แซร์จ นาบรี้ ทางฝั่งขวาของเขตโทษ หวดสวนด้วยขวาแบบไม่ต้องจับ ส่งบอลโค้งผ่านมือ อัลโด ซิมอนชินี่ เสียบตาข่ายทางเสาสองอย่างเด็ดขาด เป็นประตูแรกในนามทีมชาติชุดใหญ่ของกองกลางจากเบรเมนด้วย

          กระทั่งนาทีที่ 32 ทีมแชมป์โลกขยับสกอร์ไป 3-0 มาริโอ เกิทเซ่ พาบอลลากจี้ขึ้นมาตรงกลาง แล้วจ่ายเข้าเขตโทษให้ โยนาส เฮคเตอร์ สอดมารับแล้วหวดด้วยซ้ายสวนตัว อัลโด ซิมอนชินี่ เข้าประตูไป

          ท้ายครึ่งแรก เยอรมันพลาดได้อีกประตู จากจังหวะเปิดฟรีคิกเข้าไปทางขวาของเขตโทษ มาริโอ โกเมซ ได้เอี้ยวตัววอลเลย์ด้วยซ้ายเข้าประตูไปแล้ว แต่กรรมการมองว่าล้ำหน้า ครบ 45 นาทีแรก เยอรมัน ออกนำ ซานมารีโน 3-0

          กลับมาเตะกันได้ 3 นาที เยอรมันได้ลุ้นก่อน มัทส์ ฮุมเมิ่ลส์ เติมเกมขึ้นมาเก็บบอลจังหวะสองได้หน้าเขตโทษเจ้าบ้าน แล้วซัดด้วยซ้ายจากหน้าเขตโทษ แต่บอลบดพื้นหลุดกรอบออกหลังไปอย่างหวุดหวิด

          เลยมาถึงนาทีที่ 55 เยอรมันเกือบจะได้อีกประตู อิลคาย กุนโดกัน เก็บตกบอลจังหวะสองได้หน้าเขตโทษ แล้วหวดด้วยขวา แต่บอลเหินข้ามคานออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย

          สกอร์ไหลไปเป็น 4-0 ในนาทีที่ 58 โยชัว คิมมิช ตักบอลข้ามกองหลังให้ แซร์จ นาบรี้ สอดเข้าไปวอลเลย์ด้วยขวาในเขตโทษ ส่งบอลแทรกเสาแรกเข้าประตูไปอย่างเด็ดจาด

          นาทีที่ 65 เยอรมันเพิ่มสกอร์ไปเป็น 5-0 มาริโอ เกิทเซ่ สอดมาฉกบอลจากกองหลังเจ้าบ้านได้ทางฝั่งซ้ายของเขตโทษระยะเกือบสุดเส้นหลัง แล้วจ่ายกลับมาให้ โยนาส เฮคเตอร์ จิ้มด้วยหัวเกือกในเขตโทษผ่านตัวซิมอนชินี่เข้าประตูไป

          ช่วงท้ายเกม เยอรมันมาได้เพิ่มอีกประตู โธมัส มุลเลอร์ เปิดบอลจากทางฝั่งขวาข้ามไปทางซ้ายของเขตโทษให้ แซร์จ นาบรี้ เอี้ยวตัววอลเลย์ด้วยขวาเข้าไปสุดสวย เป็นแฮตทริกของตัวเองในเกมนี้ ครบ 90 นาที เยอรมันถล่มซานมารีโนตามคาด 6-0 เก็บเพิ่มเป็น 12 คะแนน นำโด่งเป็นจ่าฝูงของตาราง

          น.82 เยอรมันได้ประตู 7-0 เควิน โฟลลันด์ พาบอลลุยเข้าไปทางฝั่งขวาของเขตโทษ แล้วเปิดยัดเข้าเขตโทษ มัตเตีย สเตฟาเนลลี่ สกัดบอลพลาดเข้าประตูตัวเองไป

          ก่อนหมดเวลา 5 นาที เยอรมันได้ประตูปิดท้าย เควิน โฟลลันด์ กลับตัวยิงด้วยซ้ายทางฝั่งซ้ายของเขตโทษ ส่งบอลตุงตาข่ายที่เสาสองอย่างเด็ดขาด ครบ 90 นาที เยอรมัน ถล่มซานมารีโน 8-0 เก็บเพิ่มเป็น 12 คะแนนนำเป็นจ่าฝูงของตาราง

          รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

          ซานมารีโน : อัลโด ซิมอนชินี่ - มีร์โก ปาลาซซี่, ดาวิเด้ คาเซรินี่, ดาวิเด้ ซิมอนชินี่, ฟาบิโอ วิไตโอลี่, มาร์โก เบราร์ดี้ - อเล็กซ์ กาสเปโรนี่, ลูก้า โทซี่ - ตอมมาโซ่ ซัฟเฟรานี่, มาร์โก วิไตโอลี่ - มัตเตีย สเตฟาเนลลี่

          เยอรมัน : มาร์ค-อังเดร แทร์ ชเตเก้น - เบนจามิน เฮนริช, โยชัว คิมมิช, มัทส์ ฮุมเมิ่ลส์, โยนาส เฮคเตอร์ - อิลคาย กุนโดกัน, ซามี่ เคดิร่า - แซร์จ นาบรี้, มาริโอ เกิทเซ่, โธมัส มุลเลอร์ - มาริโอ โกเมซ

          ผู้ตัดสิน : อาร์ตยอม คูชิน (คาซัคสถาน)