ทีมชาติยักษ์ใหญ่:
ฝรั่งเศส อังกฤษ เยอรมนี สเปน อิตาลี เบลเยียม สวีเดน โปรตุเกส
news
อยู่ที่: หน้าแรก >

ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2004

ประเทศโปรตุเกส เป็นเจ้าภาพ ได้มีการยกเลิกกฎ "โกล์เด้นโกล์" และนำกฎ "ซิลเวอร์โกล์" มาใช้แทน โดยแต่เดิมนั้นกฎ "โกลเด้นโกล์" จะใช้ในกรณีที่คู่แข่งขันลงเล่นในช่วงต่อเวลาพิเศษ 30 นาที ซึ่งหากทีมใดทำประตูได้ก่อนในช่วงเวลาดังกล่าว เกมก็จะยุติทันที

ขณะที่ กฎ "ซิลเวอร์โกล" นั่น จะใช้ในกรณีที่คู่แข่งขันลงเล่นในช่วงต่อเวลาพิเศษ 30 นาทีเช่นกัน แต่ต่างตรงที่ หากทีมได้ทำประตูได้ก่อนเกมจะยังไม่ยุติทันที แต่จะรอให้หมดเวลาในช่วงต่อเวลาพิเศษในครึ่งแรก 15 นาทีเสียก่อน เกมถึงจะยุติ นั่นหมายความว่า ยังให้โอกาสทีมที่โดนนำทำประตูตีคืนให้ได้ในช่วงเวลาที่เหลือดังกล่าวนั่น เอง

 

 

สำหรับการแข่งขันในปีนั้นได้มีการนำกฏ"ซิลเวอร์โกล"มาใช้เพียงครั้งเดียว ในรอบก่อนรองชนะเลิศในเกมระหว่าง ทีมชาติกรีซ พบกับ สาธารณรัฐเช็ก ก่อนที่ ทีมจากดินแดนเทพนิยายจะเอาชนะไปได้ และก้าวไปคว้าแชมป์ยูโรได้เป็นสมัยแรกของทีมได้อย่างยิ่งใหญ่ ในท้ายที่สุด ด้วยลูกโหม่งของ จอร์จ อันดราเด้ เซ็นเตอร์แบ็ค ปลิดชีพ ทีมเจ้าภาพอย่างโปรตุเกส ไปด้วยสกอร์ 1-0 พร้อมกับสร้างตำนานอีกหน้าหนึ่งให้กับรายการฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรปให้ กล่าวขวัญถึงอีกนานเท่านานศึกยูโร

 

2004 ปิด ความทรงจำที่ดี ในครั้งนี้ในแง่มุมต่างๆ

ดาราเจ้าบทบาทที่สุด :ได้แก่ อันโตนิโอ คาสซาโน่ กองหน้าของ อิตาลี ที่รับบทดารานำฝ่ายชายได้อย่างสมบทบาท เปลี่ยนอารมณ์จากยิ้มแย้มสุดดีใจ มาเป็นเศร้าโศกน้ำตาลิน ได้ภายในชั่ววินาที เหตุการณ์นี้เกิดขึ้น หลังจากที่ เขายิงประตูช่วยให้ อิตาลี ขึ้นนำ บัลแกเรีย 2-1 ได้สำเร็จในช่วงต่อเวลาเจ็บ อันโตนิโอ คาสซาโน่ ยิ้มร่า แหกปากลั่นด้วยความยินดี นึกว่าจะเป็นฮีโร่พาทีม อิตาลี ผ่านเข้ารอบสองสำเร็จแล้ว แต่เฮยังไม่ทันขาดคำ เพื่อนร่วมทีมมากระซิบเบาๆ ที่ข้างหูว่า อีกสนาม ระหว่าง สวีเดน vs เดนมาร์ก เสมอกันไป 2-2 ส่งผลให้ประตูของ คาสซาโน่ ไม่มีประโยชน์อะไร เพราะยังไงทีมก็ตกรอบ ส่งผลให้ คาสซาโน่ เปลี่ยนจากเฮ เป็นโฮ น้ำตาไหลพรากในชั่วพริบตา ... build อารมณ์ของคนดู ได้อย่างประทับใจ

เหมาะที่จะเอาปี๊บคลุมตูดที่สุด :แน่นอนว่าต้องเป็นทีม ชาติเยอรมัน ที่ถึงแม้จะเจอกับ เช็ก ชุดสำรองยกชุด ยังเอาชนะไม่ได้ และเล่นไปเล่นมา ถึงขึ้นแพ้ 1-2 ตกรอบแบบเอาปี๊บคลุมหัวยังไม่พอ ต้องขออีกใบมาคลุมตูด กลับบ้านด้วย

การเปลี่ยนตัวที่ผิดพลาดที่สุด :ขอยกให้กับ ดิ๊ค แอตโวคาท กุนซือ ฮอลแลนด์ ที่เปลี่ยนเอา อาร์เยน ร็อบเบน ปีกซ้ายออกในเกมที่พบกับ เช็ก ทั้งๆ ที่เกมนั้น ร็อบเบน เล่นได้เด่นจัด เป็นตัวป่วนชั้นยอด ทำให้ทีมขึ้นนำ เช็ก ก่อนถึง 2-0 แต่พอเปลี่ยนเอา ร็อบเบน ออก เกมรุกของ ฮอลแลนด์ ก็เป็น 0 ทันที และค่อยๆ ถูก เช็ก บด จนแซงชนะได้ 3-2 ในท้ายที่สุด

ตื่นตะลึงที่สุด :หนีไม่พ้นการทำ 2 ประตูในช่วง 3 นาทีของการทดเวลาเจ็บ ของ ฝรั่งเศส ที่พลิกเชือด อังกฤษ ได้อย่างสุดเหลือเชื่อ 2-1 หลังเกมนี้ เชื่อว่าแฟนบอลกว่าครึ่ง อาจถึงขั้นนอนไม่หลับถึงเช้า ทั้งแฟน อังกฤษ และฝรั่งเศส



อาภัพที่สุด :คือ เวย์น รูนี่ย์ แต่ไม่ใช่เหตุการณ์ที่เขาเจ็บจนต้องถูกเปลี่ยนตัวออก แต่เป็นเหตุการณ์ที่ เวย์น รูนี่ย์ อุตส่าห์ยิงประตูกับทีม สวิตเซอร์แลนด์ ได้ จนส่งผลให้เขาเป็นนักเตะที่อายุน้อยที่สุดขณะนั้นที่ยิงประตูในยูโรได้ แต่แล้วสถิติก็ถูกทำลายลงอย่างรวดเร็วภายใน 4 วันหลังจากนั้น เมื่อ เด็กอ่อนตัวใหม่ของ สวิตเซอร์แลนด์ โยฮันน์ ฟอนลันเตน ยิงประตูในเกมพบกับ ฝรั่งเศส ได้ ส่งผลให้ ฟอนลันเตน กลายเป็นเจ้าของสถิติเด็กที่อายุน้อยที่สุดที่ยิงประตูใน ยูโร ไปแทนเสียฉิบ

นิยายน้ำเน่าที่สุด :ใช่แล้วครับ มันคือนิยายปรัมปราน้ำเน่าของชาวสแกนดิเนียเวีย ที่เล่นดึงเสมอกัน 2-2 จูงมือกันเข้ารอบ อย่างสุดดื่มด่ำ ไม่ต่างจากการมาฮันนิมูนคู่กันใน โปรตุเกส ก่อนจะนัดกันตกรอบ กลับบ้านพร้อมกันอีกในรอบ 8 ทีมสุดท้าย

ประตูที่สวยงามที่สุด :มีประตูสวยๆ เกิดขึ้นในทัวร์นาเมนต์นี้หลายลูกทีเดียว แต่ประตูที่จะอยู่ในความทรงจำของประชาชนตราบนานเท่านาน นอกจากจะต้องสวยงามแล้ว ยังต้องเป็นประตูที่มีคุณค่า และเกิดขึ้นถูกที่ถูกเวลา มันถึงจะติดตราตรึงใจ ซึ่งประตูที่มีคุณสมบัติครบถ้วนดังกล่าว หนีไม่พ้น ประตูของ ซลาตัน อิบราฮิโมวิช กองหน้าร่างโย่งของ สวีเดน ที่ช่วยยิงตีเสมอ อิตาลี 1-1 ได้ในช่วงนาทีสุดท้าย นอกจาก ลีลาท่าทางการยิงจะเท่ห์ แปลกตา ในรูปแบบ จรเข้ฟาดหางขาคู้ ที่ไม่เคยเห็นมาก่อนแล้ว ลูกบอลที่ลอยไป ยังเบาบาง นุ่มนวล ดุจดั่งลูกโป่ง ก่อนตุ๊บป่องๆ ไปเสียบสามเหลี่ยมบน อย่างหมดจด ชนิดที่คนดูในสนาม ยังต้องใช้เวลาเกือบ 2 วินาที กว่าจะหายตะลึง แล้วเฮลั่นออกมา

เหนียวที่สุด :ไม่ใช่โกล์ แต่เป็นกองหลังที่ชื่อ ยูร์คาส ไซตาริดิส ที่ถ้าได้รับบทให้ตามประกบใคร นักเตะคนนั้นแทบตายทันที ถูกเกาะติดหนึบทุกฝีเท้า

เสียเหงื่อมากที่สุด :ได้แก่ แยน โคลเลอร์ กองหน้าร่างยักษ์ของ เช็ก ที่ในเกมแรกที่พบ ลัตเวีย หลังเกม เขาต้องถูกหามไปโรงพยายาม เนื่องจากเสียเหงื่อ เสียเกลือแร่ จนน้ำหนักตัวลดไปถึง 5 กก.

ผิดหวังมากที่สุด :ขอยกให้ ราอูล กอนซาเลส เจ้าชายของวงการลูกหนัง สเปน ที่มาทัวร์นาเมนต์นี้ ไม่เหลือลายเจ้าชายให้เห็นแม้แต่น้อย ที่เห็นก็เป็นแค่เพียงคุณหนูลูกหนัง ที่ทำอะไรไม่เป็นสักอย่าง แต่เพราะบารมีล้วนๆ เลยทำให้ได้ลงเป็นตัวจริงเรื่อย

รูป 24 ทีมสุดท้าย

ข่าวฮอต
  นากี้ซิวดาวรุ่งยอดเยี่ยมยูโร2016เว็บไซต์โกล

นากี้ซิวดาวรุ่งยอดเยี่ยมยูโร2016เว็บไซต์โกล

อดัม นากี้ มิดฟิลด์ทีมชาติฮังการี ...
  โปรตุเกสยกย่องยูเซบิโอหลังซิวแชมป์ยูโร

โปรตุเกสยกย่องยูเซบิโอหลังซิวแชมป์ยูโร

ทีมชาติโปรตุเกส ยกย่อง ยูเซบิโอ ตำ...
  สื่อสเปนเผย 5 ดาวที่ฟอร์มห่วยในยูโร 2016

สื่อสเปนเผย 5 ดาวที่ฟอร์มห่วยในยูโร 2016

มาร์กา สื่อใหญ่สเปนเปิดเผย 5 ดาวเด...
   แฟนแห่ต้อนรับแข้งฝอยทองเยี่ยงฮีโร่หลังซิวยูโร

แฟนแห่ต้อนรับแข้งฝอยทองเยี่ยงฮีโร่หลังซิวยูโร

ขุนพลทีมชาติโปรตุเกส ชุดประวัติศาส...
  โด้ใจดี!ให้รางวัลรองดาวซัลโวนานี่

โด้ใจดี!ให้รางวัลรองดาวซัลโวนานี่

คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ซูเปอร์สตาร์ข...
  • ตารางคะแนน
    • A
    • B
    • C
    • D
    • E
    • F
  • ดาวซัลโว
อันดับ นักเตะ ทีม ประตูรวม(จุดโทษ)
ย้อนดู 3 อันดับแรกในสมัยก่อน
  • ปี
  • ชนะเลิศ
  • รองชนะเลิศ
  • อันดับ 3