บทเรียนจากรอบคัดเลือก
การครองบอลไม่ใช่ทุกอย่าง โรมาเนียแฮปปี้ที่จะเสียการครองบอลแล้วจากนั้นก็เล่นเกมสวนกลับ ต่อให้จะเป็นคู่แข่งที่พวกเขาเคยข่มมาตลอดก็ตาม นี่คือทีมที่สร้างขึ้นมาจากความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ทุกคนสามารถทดแทนกันได้หมด ซึ่งการมีจำนวนที่มากยิ่งถือเป็นเรืองดี ไม่ใช่อุปสรรคแต่อย่างใด
จุดอ่อน
จากการที่ไม่มีตัวบัญชาการเกมตรงกลางและสไตล์การเล่นที่ไม่ได้เน้นบุก (ราอูล รูเซสคู ทำได้ลูกเดียวจาก 10 นัด) ทำให้โรมาเนียต้องพึ่งการจัดระเบียบเกมรับและการเพรสซิ่งอันมีประสิทธิภาพ ซึ่งนั่นไม่เพียงพอในการเจอกับคู่แข่งอย่างฝรั่งเศสหรือสวิตเซอร์แลนด์
สิ่งที่มีแนวโน้มว่าจะเกิดขึ้นมากที่สุด
การเปิดตัวโค้ชคนใหม่ ซึ่ง อันเกล ยอร์ดาเนสคู ได้ดึงผู้จัดการทีมที่หมดสัญญาไปแล้ว 3 คนเข้ามาเป็นผู้ช่วยของเขา ด้วยความตั้งใจที่ว่าหนึ่งในนั้นจะกลายเป็นตัวแทนของตน
สิ่งที่มีแนวโน้มว่าจะเกิดขึ้นน้อยที่สุด
มีดาวซัลโวสูงสุดตลอดกาลเกิดขึ้นมาใหม่ โดย อาเดรียน มูตู กลับสู่บ้านเกิดด้วยความหวังจะสอดแทรกตัวเองสู่ทีมชุดลุยยูโร 2016 แต่ทำไม่สำเร็จ และยอดรวมที่ทำได้จะแช่อยู่ที่ 35 ประตูเท่ากับ จอร์จี้ ฮาจี้
สิ่งที่พวกเขาหวังว่าจะเกิดขึ้น
คลีนชีตในเกมกับแอลเบเนียและสวิสน่าจะทำให้พวกเขาเข้ารอบต่อไป
อะไรจะเกิดขึ้น
โรมาเนียจะผ่านเข้ารอบในฐานะทีมอันดับ 3 ที่มีผลงานดีที่สุด ก่อนจะโดนอังกฤษล้างแค้นจากศึกยูโร 2000 ในรอบ 16 ทีมสุดท้าย
คีย์แมน - นิโคเล สแตนซิอู
ภารกิจการตามหาจอมทัพหมายเลข 10 คนใหม่จบลงที่สแตนซิอู โดยกองกลางตัวรุกจากค่ายสเตอัว บูคาเรสต์ รายนี้ จัดได้ว่าเป็นพวกจิ๋วแต่แจ๋ว และถือเป็นหนึ่งในแข้งผีดิบจำนวนน้อยรายที่มีความสามารถพอที่จะสร้างอิมแพคในลีกใหญ่ของยุโรป
ผู้จัดการทีม - อันเกล ยอร์ดาเนสคู
เขากลับมาคุมทีมอีกครั้งในปี 2014 หลังจากที่ไปเล่นการเมืองได้ 8 ปี โดยกุนซือวัย 66 ปีรายนี้คือผู้พาทีมชาติโรมาเนียเข้าถึงรอบ 8 ทีมสุดท้ายที่สหรัฐเมื่อปี 1994 และตกลงที่จะกลับมาคุมทีมรอบ 3 หลังจากที่ วิคเตอร์ ปิตูร์ก้า ออกไป
- นักเตะ