บทเรียนจากรอบคัดเลือก
"ดิ อีเกิ้ลส์” เล่นได้เหนียวแน่นอย่างไม่น่าเชื่อ เมื่อไม่เสียประตูเลยในการเล่นเป็นทีมเยือนในรอบคัดเลือก แม้แต่ในเกมที่เจอกับโปรตุเกสที่พวกเขาเอาชนะได้อย่างสุดช็อค ขณะที่ในบ้านพวกเขาจะเปิดเกมบุกมากกว่าจนทำให้เสียแต้ม
จุดแข็ง
จากการที่ไม่มีใครที่มีชั้นเชิงโดดเด่นเป็นพิเศษ ทำให้สปิริตในทีมคือสิ่งเดียวที่พวกเขาใช้ต่อกรกับคู่ต่อสู้ และนักเตะเหล่านี้ก็มีอย่างเต็มเปี่ยม
จุดอ่อน
พวกเขาขาดคุณภาพในทุกๆตำแหน่ง เช่นเดียวกับประสบการณ์ในเกมระดับนี้
สิ่งที่มีแนวโน้มว่าจะเกิดขึ้นมากที่สุด
เชื่อว่าคงจะได้ยินนักเตะฝั่งตรงข้ามร้องเพลงชาติของพวกเขากันแน่นอน เพราะสวิตเซอร์แลนด์ที่เป็นคู่ต่อสู้ของแอลเบเนียในนัดแรกของยูโร 2016 มีผู้เล่นที่มีเชื้อสายแอลเบเนียอยู่หลายคนไม่ว่าจะเป็น วาลอน เบห์รามี่, กรานิต ชาก้า, ปาจติม คาซามี่, เซอร์ดาน ชาคิรี่ รวมถึงที่ไม่ได้กล่าวถึงอีก 2-3 คน
สิ่งที่มีแนวโน้มว่าจะเกิดขึ้นน้อยที่สุด
สไตล์การเล่นแบบติกิ-ตากะ ไม่ใช่แนวของทีมนี้
สิ่งที่พวกเขาหวังว่าจะเกิดขึ้น
แม้จะเป็นฮีโร่ของชาติไปแล้วจากการผ่านเข้าไปเล่นรอบสุดท้าย แต่การเข้าสู่รอบน็อคเอ้าท์ แม้แต่ในฐานะทีมอับดับ 3 ที่มีผลงานดีที่สุด ก็น่าจะเป็นผลงานระดับมาสเตอร์พีซเลยทีเดียว
อะไรจะเกิดขึ้น
จากการที่ทัวร์นาเม้นต์มีการขยายทีมที่เข้ารอบ ทำให้ผลเสมอก็ถือว่ายังไม่เสียหาย แต่การที่ต้องเก็บให้ได้อย่างน้อย 4 แต้มในการเจอกับสวิตเซอร์แลนด์, โรมาเนีย และเจ้าภาพฝรั่งเศสที่มาร์กเซย ดูจะเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้
คีย์แมน - เอลเซอิด ไฮซาจ
จากการที่ย้ายไปนาโปลีด้วยค่าตัว 5 ล้านปอนด์เมื่อช่วงซัมเมอร์ ทำให้ เอลซาอิด ไฮซาจ กลายเป็นนักเตะแอลเบเนียนที่มีค่าตัวแพงที่สุดตลอดกาลเป็นลำดับที่สอง ต่อจาก ลอริค ชาน่า กัปตันทีมชาติของพวกเขา ซึ่ง “ดิ อีเกิ้ลส์” จำเป็นต้องเล่นให้เหนียวแน่นถ้าหากหวังที่จะเข้ารอบน็อคเอ้าท์ และแบ็คขวาวัย 22 ปีรายนี้จะเป็นส่วนสำคัญในเกมรับ
ผู้จัดการทีม - จานนี่ เด เบียซี่
เขาคือโค้ชที่มีความอุตสาหะและอดทนจนเป็นที่รักของคนในแอลเบเนียซึ่งถือเป็นบ้านหลังที่สองของเขา โดยก่อนหน้านี้เด เบียซี่ เคยพาโมเดน่าเลื่อนชั้นสองปีติดจนขึ้นสู่เซเรีย อา ในปี 2002 ขณะที่แอลเบเนียจะเจอกับฝรั่งเศสก่อนหน้าวันเกิดปีที่ 60 ของเจ้าตัว 1 วัน
- นักเตะ