"สิงโตคำราม" อังกฤษ ชวดคว้าสามคะแนนประเดิมสนามอย่างน่าเสียดายทั้งที่ขึ้นนำไปก่อนแต่มาโดน วาซิลี่ เบเรซุตสกี้ กัปตันหมีขาวไล่ตีเสมอช่วงทดเจ็บ 1-1 ทำให้แบ่งแต้มกันไป ในศึกยูโร2016ที่ประเทศฝรั่งเศส คืนวันเสาร์ที่11มิ.ย.ที่ผ่านมา

ฟุตบอลยูโร 2016 กลุ่ม บี

วันเสาร์ที่ 11 มิถุนายน 2559 

อังกฤษ 1 - รัสเซีย 1

สนาม: สต๊าด เวโลโดรม, ประเทศฝรั่งเศส

    ก่อนเริ่มเกมคู่นี้มีรายงานว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจฝรั่งเศสต้องยิงแก๊สน้ำตาเข้าสงบศึกการตะลุมบอนของกองเชียร์ทั้งทีมสิงโตคำรามและหมีขาว ตลอดจนชาติเจ้าภาพ ซึ่งเป็นวันที่สามติดต่อกันแล้วที่สาวกทรี ไลออนส์ก่อความวุ่นวายใน
ศึกยูโร 2016

    ออกสตาร์ตครึ่งแรกมาได้แค่สามนาที สิงโตคำรามได้โอกาสก่อน อดัม ลัลลาน่า โหม่งตั้งให้กับ เดเล่ อัลลี่ กระหน่ำด้วยขวาจากนอกเขตโทษบอลเฉี่ยวสามเหลี่ยมออกไป 

    หลังจากนั้น 4 นาทีอังกฤษได้โอกาสอีก ไคล์ วอล์คเกอร์ จ่ายจากกรอบเขตโทษด้านขวาสั้นๆเข้าในให้ อดัม ลัลลาน่า จับแล้วยิงเร็วด้วยขวา ทว่า อิกอร์ อากินเฟเยฟ นายทวารทีมชาติรัสเซียปัดข้ามคานได้ทัน 

    ผ่านมา 9 นาทีอังกฤษบุกต่อเนื่อง ราฮีม สเตอร์ลิง โยนจากกราบซ้ายให้กับ เดเล่ อัลลี่ ลอยตัวขวิดกลางกรอบเขตโทษบอลหลุดเสาสองไป 

    สามนาทีต่อมาทัพสิงโตได้โอกาสอีก แฮร์รี่ เคน เปิดมุมจากทางฝั่งขวาให้ คริส สมอลลิ่ง ทะยานขึ้นโขกบอลไปตรงตัวของ อิกอร์ อากินเฟเยฟ  

    เกมดำเนินมาถึงนาทีที่ 13 ขุนพลทรี ไลออนส์บดตลอด รูนี่ย์กัปตันทีมเปิดให้กับ แฮร์รี่ เคน หวดด้วยขวาจากนอกเขตโทษบอลไม่ตรงกรอบ 

    ถัดมา 4 นาทีรัสเซียตั้งหลักได้แล้วมีโอกาสเหมือนกัน โอเล็ก ชาตอฟ โยนให้กับ เซอร์เก อิ๊กนาเชวิช โหม่งในกรอบเขตโทษ แต่ โจ ฮาร์ท นายทวารทีมชาติอังกฤษเซฟไว้ได้ 

    จากนั้นนาทีที่ 35 อังกฤษได้ลุ้นอีก เดเล่ อัลลี่ จ่ายให้กับ เวย์น รูนี่ย์ ตะบันด้วยขวาจากนอกเขตโทษบอลเข้ากรอบ แต่ไม่ผ่านมือของ อิกอร์ อากินเฟเยฟ นายทวารของรัสเซีย 

    หกนาทีต่อมาสิงโตคำรามดันเกมขึ้นมา รูนี่ย์จ่ายให้กับ แดนนี่ โรส สับไกยิงด้วยซ้ายจากนอกเขตโทษบอลเฉี่ยวเสาขวาไป หมดครึ่งแรกเสมอกันอยู่ 0-0  
    
    กลับมาบู๊กันต่อในครึ่งหลังได้สิบนาที ทัพสิงโตได้โอกาสก่อนจากลูกฟรีคิกทางกรอบเขตโทษด้านขวา เวย์น รูนี่ย์ ปั่นด้วยขวาบอลข้ามคานไป 

    หนึ่งชั่วโมงของเกมการแข่งขัน รัสเซียขึ้นเกมมาบ้าง โอเล็ก ชาตอฟ โยนลุกเตะมุมให้กับ วาซิลี่ เบเรซุตสกี้ โขกเฉี่ยวเสาซ้ายไป 

    สามนาทีต่อมารัสเซียมาอีกครั้ง อาร์เต็ม ชิวบา ไหลให้กับ ฟีโอดอร์ สโมลอฟ ยิงด้วยขวาจากนอกเขตโทษบอลเฉี่ยวเสาออกไป 

    สิงโตคำรามน่าจะได้ประตูขึ้นนำอย่างยิ่งในนาทีที่ 71 เมื่อ แดนนี่ โรส ผ่านจากทางด้านซ้าย กองหลังรัสเซียสกัดออกมาเข้าทางของ เวย์น รูนี่ย์ กดด้วยขวาเน้นๆ จากริมกรอบเขตโทษ อิกอร์ อากินเฟเยฟ นายทวารัสเซียปัดไปชน
คานเด้งมาเข้าทาง อดัม ลัลลาน่า ยิงซ้ำไปชนเสาอีก แต่ถึงเข้าก็ไม่ได้ เพราะมีการเป่าล้ำหน้าลัลลาน่าไปแล้วในจังหวะนี้ 

    สองนาทีต่อมาอังกฤษได้ฟรีคิกเยื้องมาทางหน้ากรอบเขตโทษด้านขวา จากจังหวะที่ เดเล่ อัลลี่ โดนทำฟาวล์ ผู้ตัดสินเป่าทันที ก่อนที่ แฮร์รี่ เคน จะข้ามหลอกแล้วให้ เอริก ดายเออร์ ปั่นด้วยขวาบอลโค้งข้ามกำแพงเสียบสามเหลี่ยม
เสาไกลเข้าไปสุดสวยช่วยให้สิงโตคำรามนำก่อน 1-0 และนับเป็นผู้เล่นจากสเปอร์ส คนที่ 8 ที่ทำประตูให้ทีมชาติอังกฤษได้ในทัวร์นาเมนต์ระดับเมเจอร์อย่างฟุตบอลยูโรหรือฟุตบอลโลก 

    ล่วงเลยมานาทีที่ 77 ทัพสิงโตถอดรูนี่ย์ออกมาพักแล้วให้ แจ็ค วิลเชียร์ ลงเล่นแทน 
    
    เกมทำท่าว่าจะจบด้วยชัยชนะของ อังกฤษ แต่ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ อิกอร์ สโมลนิคอฟ โยนบอลมาหน้าปากประตู วาซิลี่ เบเรซุตสกี้ กัปตันทีมขึ้นโขกบอลสวนทางเสียบเสาสองเข้าไปอย่างเด็ดขาดช่วยให้ รัสเซีย ไล่ตีเสมอ 1-1 สำเร็จ จบเกมแบ่งแต้มกันไปทีมล่ะคะแนน

    รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม 

    อังกฤษ (4-3-3) : โจ ฮาร์ท - ไคล์ วอล์คเกอร์, คริส สมอลลิ่ง, แกรี่ เคฮิลล์, แดนนี่ โรส - เวย์น รูนี่ย์ (กัปตันทีม), เอริก ดายเออร์, เดเล่ อัลลี่ - อดัม ลัลลาน่า, แฮร์รี่ เคน, ราฮีม สเตอร์ลิง

    รัสเซีย (4-2-3-1) : อิกอร์ อากินเฟเยฟ - อิกอร์ สโมลนิคอฟ, เซอร์เก อิ๊กนาเชวิช, วาซิลี่ เบเรซุตสกี้ (กัปตันทีม), จอร์จี้ เชนนิคอฟ - โรมัน นอยชเตดเตอร์, อเล็กซานเดอร์ โกโลวิน - ฟีโอดอร์ สโมลอฟ, โอเล็ก ชาตอฟ, อเล็กซาน
เดอร์ โกโกริน - อาร์เต็ม ชิวบา 

    ผู้ตัดสิน: นิโกล่า ริซโซลี่ (อิตาลี)